สเต๊ก หากคุณเป็นคนที่หลงใหลและชื่นชอบในการรับประทานเนื้อ
สเต๊ก คนที่หลงใหลและชื่นชอบในการรับประทานเนื้อ การเลือกเนื้อให้ถูกปากและความต้องการก็เป็นอีกสิ่งนึงที่จะช่วยเติมเต็มรสชาติที่คุณตามหา รวมไปถึงคนที่เปิดร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารฝรั่ง หรือร้านสเต็ก เนื้อวัวเองก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักที่คุณจะต้องเลือกซื้อเพื่อมาใช้ในครัวของคุณ
คุณรู้หรือไม่? ว่าเนื้อแต่ละส่วนนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ! สำหรับบทความนี้เรานำความรู้เบื้องต้นเพื่อให้คุณได้รู้จักชิ้นส่วนเนื้อวัวต่างๆ ซึ่งก่อนอื่นเลยจะต้องรู้จักเนื้อชิ้นส่วนต่างๆ ที่นิยมนำมาทำเนื้อสเต็กกัน
1. เนื้อเซอร์ลอยน์ (Sirloin) – เนื้อส่วนสะโพกด้านบน หรือ เนื้อสันนอก
เนื้อชิ้นใหญ่ที่อยู่ในส่วนถัดจากกระดูกสันหลังทั้ง 2 ฝั่ง จากชายโครง เนื้อส่วนนี้มีความนุ่มอยู่ในระดับต้นๆ โดยจะมีมันแทรกเล็กน้อย ซึ่งจะมีส่วนมันอยู่ด้านบนของชิ้นเนื้อสเต็ก ทำให้เมื่อได้ทานได้ลิ้มรสกลิ่น-รสสัมผัส จากการเคี้ยวของเนื้อที่ละลายอยู่ในปากและความหอมได้เต็มๆ
2. เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ (Tenderloin) – เนื้อสันใน
เนื้อส่วนของกล้ามเนื้อรูปร่างยาวจากหัวสะโพกวัวยาวและเรียวลงมาเป็นส่วนที่วัวไม่ค่อยได้ใช้งาน จึงมีกล้ามเนื้ออยู่น้อย จึงขึ้นชื่อเรื่องเนื้อสัมผัสที่มีความนุ่มที่สุด เนื้อไม่เหนียว และมีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อน้อย
เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ ด้วยความที่เป็นส่วนนี้เป็นส่วนที่ไม่ใหญ่มาก จึงทำให้เวลาตัดเป็นชิ้นสเต็กจะได้ชิ้นกลมหนา แต่ก็ทดแทนด้วยสัมผัสที่มีความนุ่มของเนื้อ และมีมันน้อย จึงเป็นอีกส่วนที่นิยมมากๆ โดยเฉพาะสาย Lean ห้ามพลาดเลย!
3. สตริปลอยน์ (Strip Loin) – เนื้อสันติดมัน หรือ นิวยอร์กสตริปสเต็ก (New York Strip)
เนื้อสันส่วนที่ติดมัน เป็นส่วนที่หลายคนกล่าวขานว่าเป็นส่วนเนื้อที่อร่อยที่สุด จนได้ขนานนามว่า “God Father of Steak”เพราะได้ความนุ่มละลายในปากแบบเทนเดอร์ลอยด์ และแฝงความชุ่มฉ่ำไปด้วยรสชาติเข้มข้นของเนื้อสันติดมันแบบถึงใจ
เนื้อสตริปลอยน์ เป็นส่วนที่มีราคาสูงนิดนึง เนื่องจากเป็นส่วนเนื้อสันที่เป็นส่วนน้อยของตัววัว แต่เรื่องรสชาตินี่ติดมัน รสเข้มข้นถึงใจแน่นอน ซึ่งสำหรับชาวแฟนเนื้อนี่เป็นส่วนที่คนเปย์กันง่ายๆ
4. ทีโบนสเต็ก (T-Bone) – เนื้อสันนอกส่วนที่ติดกระดูก หรือ พอร์ตเตอร์เฮาส์ (Porterhouse)
เนื้อติดกระดูกรูปตัว T ที่ได้จากการตัดเนื้อกึ่งกลางระหว่างส่วนเนื้อชั้นเยี่ยมทั้งสองอย่าง Strip Loin และ Tenderloin นั่นหมายถึงตัวเนื้อจะผสมผสานทั้งนุ่มแบบฟิเลมิยองของเทนเดอร์ลอยน์ และฉ่ำรสชาติเนื้อแบบสตริปลอยน์ เรื่องรสชาติและคุณภาพเลิศขนาดนี้ราคาก็ย่อมแพงเป็นธรรมดา
เนื้อทีโบน เสน่ห์ของการทานเนื้อส่วนนี้คือการที่ได้ลิ้มรสเนื้อทั้งสองแบบในเวลาเดียวกัน เป็นอีกส่วนที่ราคาค่อนข้างสูงแต่ก็คุ้มค่าที่จะได้ลอง
*เนื้อ T-Bone จะต่างกับ Porterhouse ตรงส่วนที่เป็นเทนเดอร์ลอยน์มากกว่าและชิ้นใหญ่กว่า โดยจะต้องตัดให้มีความหนาอย่างน้อย 1.25 นิ้ว ถึงจะเรียกว่า Porterhouse ได้
ไก www.beefbrotherth.com